
นาโอะ จิงงูจิ (Nao Jinguji) ชื่อที่แฟน ๆ วงการเอวีญี่ปุ่นรู้จักกันดีในฐานะนักแสดงสาวที่มากความสามารถและเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางอารมณ์ เธอไม่ได้มีดีเพียงรูปลักษณ์อ่อนหวาน แต่ยังเป็นผู้หญิงที่ใส่ใจในรายละเอียดของการแสดงทุกซีน ทุกสายตา และทุกลมหายใจ หนึ่งในคำถามที่แฟนคลับอยากรู้เสมอคือ “หนังเรื่องไหนที่นาโอะรักที่สุด” — วันนี้เราจะพาไปรู้จักเบื้องหลังผลงานที่เธอเรียกว่า “เรื่องโปรดตลอดกาล” พร้อมเล่าแรงบันดาลใจ ความรู้สึก และสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ
จุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ไม่ธรรมดา
ก่อนจะมาถึงจุดที่เธอสามารถเลือกผลงานที่รักได้ นาโอะ จิงงูจิต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และการพิสูจน์ตัวเอง เธอเปิดตัวในวงการเอวีญี่ปุ่นราวปี 2017 กับค่ายดัง โดยในตอนนั้นเธอยังเป็นเพียงนักแสดงหน้าใหม่ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความกลัวปะปนกัน
นาโอะเล่าว่า เธอเคยดูผลงานของนักแสดงรุ่นพี่อย่าง ยูอะ มิคามิ (Yua Mikami) และ คานะ โมโมโนะงิ (Kana Momonogi) ซึ่งทำให้เธอเริ่มสนใจแนวทางการแสดงที่ไม่ได้ขายเพียงรูปลักษณ์ทางกาย แต่แสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก และตัวตนของผู้หญิงในแบบที่ซับซ้อนมากกว่าแค่ “ความเซ็กซี่”
หนังเรื่องโปรดของนาโอะ: “My Beloved Wife” จุดเริ่มต้นของความเข้าใจในศิลปะแห่งอารมณ์
เมื่อถามว่า “ผลงานไหนที่เธอชื่นชอบที่สุดในชีวิตการแสดง?” นาโอะตอบทันทีว่า “My Beloved Wife” คือเรื่องที่เธอรักที่สุด หนังเรื่องนี้เป็นแนวดราม่า–โรแมนติกที่สะท้อนความซับซ้อนของความรัก การแต่งงาน และความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในใจของผู้หญิง
ในเรื่อง นาโอะรับบทเป็น “ยูริเอะ” ภรรยาที่ใช้ชีวิตกับสามีมาหลายปี แต่เริ่มรู้สึกว่าความสัมพันธ์ค่อย ๆ จืดจางลง เธอต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวในชีวิตประจำวัน และในที่สุดก็ได้พบกับชายหนุ่มอีกคนที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหวอีกครั้ง
นาโอะเคยกล่าวว่า การแสดงในเรื่องนี้ทำให้เธอเข้าใจว่า “ความรักไม่ได้มีแค่ความสุขหรือความเศร้า แต่มันคือการต่อสู้ระหว่างหัวใจกับเหตุผล” เธอต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการทำความเข้าใจบท เรียนรู้ความรู้สึกของตัวละคร และทำให้ทุกฉากดูจริงโดยไม่ต้องแสดงเกินจริง
เบื้องหลังการถ่ายทำที่ทั้งยากและอบอุ่น
“My Beloved Wife” เป็นผลงานที่ถ่ายทำในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งอากาศในญี่ปุ่นกำลังเย็นและงดงาม ผู้กำกับของเรื่องคือ “คามิยามะ เคนทาโร่” ซึ่งเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ “สายตา” มากกว่าคำพูด เขาเคยบอกนาโอะว่า “ในฉากนี้ ไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่ให้สายตาของเธอสื่อสารแทนทุกอย่าง”
เธอเล่าว่าฉากหนึ่งในเรื่องที่จำได้ไม่ลืมคือ ตอนที่เธอต้องร้องไห้อย่างเงียบ ๆ หลังจากทะเลาะกับสามี มันเป็นฉากที่ไม่มีบทพูดเลย แต่ผู้กำกับต้องการให้เธอสื่ออารมณ์ผ่านการนั่งเฉย ๆ เธอใช้เวลานั่งอยู่หน้ากล้องกว่า 10 นาทีโดยไม่ขยับ และเมื่อผู้กำกับพูดคำว่า “คัต” น้ำตาของเธอก็ยังไม่หยุดไหล
นาโอะบอกว่า “มันคือฉากที่ฉันไม่ได้แสดง แต่มันคือฉันจริง ๆ ที่รู้สึกถึงความเจ็บปวดของผู้หญิงคนหนึ่ง” นั่นทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นผลงานที่เธอผูกพันที่สุด
ความหมายของ “My Beloved Wife” ต่อชีวิตของนาโอะ
หลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย มันไม่เพียงได้รับคำชมจากแฟน ๆ ทั่วญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังทำให้นาโอะได้รับรางวัล “Best Actress” จากงานประกาศรางวัล AV Open ในปี 2020 และถูกพูดถึงในวงการว่าเป็น “นักแสดงหญิงที่สื่ออารมณ์ผ่านสายตาได้ดีที่สุด”
เธอกล่าวว่า “หนังเรื่องนี้เปลี่ยนชีวิตฉันจริง ๆ มันทำให้ฉันเข้าใจว่าฉันไม่ได้เป็นเพียงนักแสดงเอวี แต่เป็นนักแสดงที่สามารถใช้ความรู้สึกของตัวเองในการสร้างศิลปะ”
นอกจากนี้ นาโอะยังบอกว่า “ยูริเอะ” ตัวละครในเรื่องนี้มีบางส่วนที่คล้ายกับชีวิตจริงของเธอ — ความกลัวที่จะสูญเสีย ความต้องการความรัก และความสับสนในเส้นทางชีวิต “ฉันร้องไห้ในหลายฉากไม่ใช่เพราะการแสดง แต่เพราะฉันเข้าใจยูริเอะจริง ๆ”
ผลกระทบของผลงานต่อภาพลักษณ์ในวงการ
หลังจาก “My Beloved Wife” ประสบความสำเร็จ นาโอะ จิงงูจิ ถูกยกให้เป็นนักแสดงที่มีภาพลักษณ์ “ผู้หญิงอบอุ่นและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก” ซึ่งทำให้เธอได้รับบทแนวดราม่าและโรแมนติกมากขึ้น เช่น “The Secret of the Office Lady” และ “A Rainy Afternoon”
หลายคนในวงการยอมรับว่า นาโอะเป็นนักแสดงที่สามารถเปลี่ยนหนังเอวีให้กลายเป็น “เรื่องเล่าแห่งอารมณ์” ได้อย่างแท้จริง เพราะเธอไม่เพียงแค่แสดง แต่ “ใช้หัวใจทำงาน” ทุกครั้ง

ความสัมพันธ์กับทีมงานและคู่แสดง
นาโอะเคยพูดถึงคู่แสดงใน “My Beloved Wife” ว่า “เขาเป็นคนที่เข้าใจบทมาก และรู้วิธีทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยในการถ่ายทำ” ทีมงานทุกคนเคารพในความเป็นมืออาชีพของเธอ และผู้กำกับเองก็มักเรียกเธอว่า “นักแสดงที่เข้าใจความเป็นมนุษย์มากที่สุด”
การทำงานในกองถ่ายเรื่องนี้ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จของหนังไม่ได้มาจากคนคนเดียว แต่มาจากทุกคนที่ร่วมสร้างอารมณ์ร่วมกัน ตั้งแต่ช่างไฟจนถึงผู้กำกับเสียง
กระแสตอบรับจากแฟนคลับ
หลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย แฟนคลับจากทั่วโลกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่คือผลงานที่ทำให้นาโอะกลายเป็นตำนาน” บางคนบอกว่า หนังเรื่องนี้ทำให้พวกเขามองวงการเอวีในมุมใหม่ เพราะมันเต็มไปด้วยความจริงใจและความรู้สึกที่จับต้องได้
แฟนคลับในไทยเองก็มีการตั้งกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับผลงานของนาโอะอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในออนไลน์ฟอรั่มที่พูดถึง “การแสดงที่ไม่ใช่แค่เร้าใจ แต่ลึกซึ้งเหมือนดูหนังรักญี่ปุ่นแท้ ๆ”
แรงบันดาลใจที่เธออยากส่งต่อ
นาโอะกล่าวในบทสัมภาษณ์ล่าสุดว่า เธออยากให้แฟน ๆ เห็นว่างานของเธอไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่เป็นการสื่อสารความรู้สึกระหว่างมนุษย์ “ฉันอยากให้คนที่ดูหนังของฉันรู้สึกว่า ความรัก ความเจ็บปวด และการให้อภัย เป็นสิ่งที่เราทุกคนมีร่วมกัน”
สำหรับเธอ “My Beloved Wife” ไม่ใช่แค่หนังเรื่องโปรด แต่เป็น “จดหมายแห่งหัวใจ” ที่เธอเขียนถึงทุกคนที่เคยรัก เคยเสียใจ และยังคงเชื่อในความรัก
สรุป: หนังที่สร้างตัวตนของ Nao Jinguji
“My Beloved Wife” ไม่เพียงเป็นผลงานที่ดีที่สุดในสายอาชีพของนาโอะ แต่ยังเป็นหลักฐานว่าเธอคือหนึ่งในนักแสดงหญิงที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของวงการเอวีญี่ปุ่นไปตลอดกาล จากภาพจำของความวาบหวาม สู่ความงามของอารมณ์และความจริงใจ
นาโอะ จิงงูจิ คือผู้หญิงที่กล้าแสดงออกถึงความรู้สึกของมนุษย์ผ่านเลนส์ของศิลปะ เธอพิสูจน์แล้วว่า “แม้ในโลกที่หลายคนมองว่าเป็นเพียงความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ ก็ยังมีพื้นที่ให้ศิลปะและหัวใจเต้นได้พร้อมกัน”
FAQ
-
หนังเรื่องโปรดของ Nao Jinguji คือเรื่องอะไร?
เรื่องที่เธอรักและผูกพันที่สุดคือ “My Beloved Wife” ซึ่งเป็นหนังแนวดราม่า–โรแมนติกที่สะท้อนความซับซ้อนของชีวิตคู่ -
ทำไมเธอถึงรักหนังเรื่องนี้มากที่สุด?
เพราะเธอรู้สึกว่าได้ใส่ตัวตนและอารมณ์จริง ๆ ลงไปในบทบาท ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นงานที่ “ไม่ต้องแสดงแต่เป็นตัวเอง” -
หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลหรือไม่?
ใช่ นาโอะได้รับรางวัล Best Actress จากงาน AV Open 2020 และเป็นผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในวงกว้าง -
เธอใช้เวลาเตรียมตัวอย่างไรสำหรับบทบาทนี้?
นาโอะใช้เวลาศึกษาบทมากกว่า 2 สัปดาห์ อ่านหนังสือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ และฝึกการแสดงอารมณ์โดยไม่พูด เพื่อให้สื่อความรู้สึกออกมาจริงที่สุด -
หลังจากหนังเรื่องนี้ เธอมีผลงานเด่นอะไรอีกบ้าง?
เช่น “The Secret of the Office Lady” และ “A Rainy Afternoon” ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากเช่นกัน -
เธออยากส่งต่ออะไรให้แฟน ๆ จากผลงานนี้?
นาโอะอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าความรักไม่ใช่เรื่องสมบูรณ์แบบ แต่คือการยอมรับและให้อภัย — และนั่นคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์ยังมีหัวใจ
